
ควรใช้เครื่องเลเซอร์ประเภทใด ในการจัดการปัญหาเม็ดสีของคุณ ??
เนื้อหาโดยรวม
หากคุณกำลังประสบปัญหาผิว โดยต้องการเครื่องมือที่สามารถจัดการปัญหาที่คุณมองว่าเป็นข้อบกพร่อง เช่น ฝ้ากระ ริ้วรอย , รอยแผลเป็นจากสิว และกำจัดขนที่ไม่พึงประสงค์ รวมทั้งต้องการจะลบบางสิ่งที่ผิวไม่ได้สร้างขึ้นเองโดยธรรมชาติ ได้แก่ สีหมึกที่มาจากการออกแบบรอยสักต่างๆ ซึ่งปัญหาผิวดังกล่าว สิ่งที่จะสามารถแก้ไขปัญหาผิวได้คลอบคลุมเท่ากับ เครื่องมือที่เรียกว่า เลเซอร์ (Laser for skin treatment)
ในปัจจุบันเทคโนโลยีเลเซอร์สำหรับการจัดการปัญหาผิว มีหลายเทคนิค ซึ่งเทคโนโลยีเลเซอร์ pico คือ นวัตกรรมล่าสุด ที่กล่าวขานตั้งแต่ช่วงปลายปี 2016 ที่สามารถรักษาได้ครอบคลุมทุกความผิดปกติของเม็ดสีของผิวหนัง รอยจุดด่างดำ กระ ฝ้า ได้ดีมากยิ่งขึ้น
รวมไปถึงรอยสักทุกเม็ดสี ตั้งแต่ รอยสักสีดำ แดง เหลือง เขียว ก็สามารถจัดการได้ดีขึ้น ในเครื่องเดียว แน่นอนว่า ถ้าดีขนาดนี้ย่อมทำให้กลายเป็นสิ่งที่เข้าถึงยาก นั่นคือ มีข้อจำกัด ในเรื่องของราคา ค่าคอร์สในการรักษา อาจจะมากกว่าเลเซอร์ประเภทอื่น
คุณสมบัติของเลเซอร์ pico :
สามารถเลือกใช้ความยาวคลื่นได้ตามความต้องการที่จะรักษา ตั้งแต่ความถี่ 1064 nm ,755nm , 532nm ซึ่งอาจมองว่า คุณสมบัติก็เหมือนเครื่องเลเซอร์โดยทั่วไป ได้แก่
- Multi Colour Tattoo Removal ลบรอยสักสีได้ (สีดำ สีแดง สีเหลือง สีเขียว)
- Melasma รักษาปัญหาเรื่องจุดด่างดำ เช่น กระ รอยดำต่างๆได้
- All epidermis / dermis pigment lesions รักษารอยสิว หลุมสิว (Acnescar) รวมถึงรักษาแผลเป็นต่างๆได้
- Multiwavelengh ใช้ในการปรับสีผิวให้ขาวเนียนสม่ำเสมอตามสีผิวของแต่ละบุคคล
- Rejuvenation ฟื้นฟูสภาพผิวหน้า ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวกระชับขึ้น
สิ่งที่แตกต่างกันจากเครื่องเลเซอร์โดยทั่วไป
นั่นคือ พลังงานแสงระดับ picosecond 1 ต่อ / ล้านล้านวินาที ที่ไม่ทำให้ผิวเกิดรอยแผล รอยไหม้ และไม่มีการตกสะเก็ด เพราะ เซลล์เม็ดสีที่รับพลังงาน ไม่มีการสะสมความร้อน โดยมีการพัฒนามาจากระดับพลังงานเลเซอร์ที่มีระดับ nanosecond ที่อยู่ในเลเซอร์qswitched
แต่เลเซอร์ชนิด qswitched ยังทำให้เกิดความร้อนสะสมต่อเซลล์โดยรอบ ที่ส่งผลต่อความรู้สึกเจ็บ ร้อน ขณะทำการรักษาอยู่ รวมถึง อาการบวมและผลการรักษาที่ต้องใช้ระยะเวลามากกว่า เครื่องเลเซอร์แบบ picosecond
สิ่งที่แตกต่างต่อมา คือ การที่สามารถตั้งค่าพลังงานได้ ทำให้ลดโอกาสเสี่ยงในการเกิด PIH (ความผิดปกติที่เกิดขึ้นหลังทำการทำการรักษา) ความสำคัญของการที่สามารถเลือกปรับค่าพลังงานได้ นั่นคือ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาผิวที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลได้ นั่นเอง
สิ่งสำคัญในการรักษานั่นคือ ความรู้สึกของคนไข้ ขณะทำการรักษาจะรู้สึกสบาย ไม่ทรมาน ไม่เจ็บ
นอกจากนี้ ยังมีการฟังก์ชั่นที่สามารถปรับเพิ่มหัว Fractional Laser เพื่อนำใช้ในการปรับสภาพผิวหน้า สร้างความกระจ่างใส และกระตุ้นการเกิดคอลลาเจน ฟื้นฟูสภาพผิวหน้าให้ดีขึ้น เทียบเท่ากับ เครื่องเลเซอร์ fractional ทั่วไปได้อีกด้วย
เลเซอร์ picosecond เป็นเลเซอร์ของพลังงานที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็วในการสลายเม็ดสีได้โดยตรง ปรับปรุงผิวคล้ำและให้ผิวขาวขึ้น ความแตกต่างระหว่างเลเซอร์ picosecond กับเลเซอร์แบบเดิมคือ ความกว้างของพัลส์ (Pulse duration)
ยิ่งความกว้างของพัลส์สั้นที่สั้นกว่า แสงที่ส่งจะให้ความร้อนที่ส่งผลข้างเคียงน้อย หรือแม้กระทั่งไม่มีผลข้างเคียงจากความร้อน และลำเเสงจะไม่กระจายไปยังอวัยวะอื่น จะทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อเนื้อเยื่อเป้าหมาย
สามารถทำให้เม็ดสีลดลงได้ ใช้เวลาการรักษาที่สั้นลง ให้ผิวแข็งแรงขึ้น เกิดผลเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพ ดีขึ้นและปลอดภัยกว่าแบบเดิม
สรุป
เรียกได้ว่า สะดวก ครบครันง่ายในการรักษาผิวด้วยเครื่องเลเซอร์ แต่ใช้เวลาในการรักษาที่สั้นลงผลการรักษาที่ แม่นยำ รวดเร็วขึ้น ได้ประสิทธิภาพ รวมไปถึง มีความปลอดภัยการรักษาขึ้นด้วย
เอซเธติค บาย แอมเพ็ค ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงามการแพทย์ และการดูแลสุขภาพชั้นนำในประเทศไทยผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO9001 , ISO13485 , FDA
95/21 Banklangkrung Office Park , Nakniwat Rd , Soi Ladprao 71 , Ladprao , Bangkok , Thailand
+(66) 2539 5522
ampexcentergroup@gmail.com (Local)
ampexcenter@yahoo.com (Local and Oversea)